Tuesday, May 31, 2016

เอาแล้ว...!! แม่เหยื่อ ไม่เชื่อ "พ่อข่มขืนลูก" แฉหมดเปลือก ความลับ "บนเตียง" ก่อนเกิดเหตุ!!..????




จากกรณี เด็กหญิงวัย 8 ขวบ ถูกคนร้ายบังคับให้ดื่มน้ำอัดลมผสมยาบ้า ก่อนจะข่มขืนกระทำชำเราอย่างรุนแรง กระทั่งเหยื่อเกิดหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลตรังในเวลาต่อมา จนนำไปสู่การควบคุมตัวพ่อของเด็ก ที่ยอมรับสารภาพว่า ก่อเหตุข่มขืนลูกสาวตัวเองจริง เนื่องจากวันเกิดเหตุได้เสพยาบ้าเข้าไป แล้วมีความต้องการทางเพศอย่างรุนแรง  โดยตำรวจนำตัวไปสอบสวนและฝากขัง ก่อนที่ผู้ต้องหาจะก่อเหตุใช้เชือกกางเกงผูกคอตัวเองภายในห้องขัง หวังฆ่าตัวตายหนีความผิด แต่เจ้าหน้าที่สามารถช่วยชีวิตไว้ได้ จนพ้นขีดอันตราย


ล่าสุดวันนี้ (25 พ.ค.2559)  ภรรยาของผู้ต้องหา และเป็นแม่ของเด็กที่เสียชีวิต ได้เข้าเยี่ยมอาการสามีที่โรงพยาบาลตรัง พร้อมเปิดเผยว่าสามีมีอาการเครียดจัด และยืนยันกับตนว่าไม่ได้ทำ แต่ที่สารภาพกับตำรวจเพราะถูกกดดันอย่างหนัก จนทำให้ตัดสินใจคิดสั้นไปแบบนั้น

ที่มาจาก : http://www.77jowo.com/content/1661/

ขณะที่โดยส่วนตัวไม่เชื่อว่าพ่อของเด็ก จะลงมือข่มขืนลูกในไส้ของตัวเอง  เพราะสามีเป็นพ่อที่รัก และเป็นห่วงลูกมาก และช่วยดูแลลูกมาโดยตลอด การตรวจสอบหลักฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจอาจเป็นการเข้าใจผิด เพราะตนและสามีกับลูกๆ ก็นอนด้วยกันตลอด  ซึ่งก่อนเกิดเรื่องสลด ประมาณ 3 วัน  ตนกับสามีเพิ่งมีเพศสัมพันธ์กัน จึงอาจเป็นไปได้ว่า คราบอสุจิที่พบบนที่นอน กับชุดของลูกสาว อาจเป็นของสามีกับตน ไม่ใช่กับลูกของตน เพราะจำได้ว่า ครั้งหนึ่งสามีมีการใช้ชุดของลูกสาวมาเช็ดอสุจิ  หลังจากเสร็จภารกิจกับตน แล้วก็โยนชุดลูกสาวทิ้งไว้บริเวณห้องนอน ซึ่งตนก็ยังไม่ได้ซักทำความสะอาด แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจยึดไปเป็นหลักฐาน

ทั้งนี้ ตนยังมั่นใจว่า นายเฟิร์ส ผู้ต้องหาคนแรกเป็นคนทำ เพราะเชื่อตามคำบอกของลูกสาวก่อนเสียชีวิต เพราะตนเองถามย้ำต่อหน้าพยาบาล ว่าใช่พ่อหรือไม่ที่เป็นคนทำ ซึ่งลูกบอกว่าไม่ใช่ อีกทั้ง ลูกสาวคนเล็กอายุ 4 ขวบ ก็ยืนยันว่าเห็น นายเฟิร์ส เข้าไปในห้องนอนและมีการชี้ได้ไม่ผิดตัว จึงจะขอรอผลทางนิติวิทยาศาสตร์ที่แน่ชัดก่อน  หากผลดีเอ็นเอออกมาตรงกับสามี ตนก็พร้อมจะยอมรับและทำใจได้ โดยต้องปล่อยให้ดำเนินการไปตามกฎหมาย เพราะตนก็ไม่มีเงินที่จะไปวิ่งเต้นคดี หรือให้การช่วยเหลือใดๆ แต่หากตราบใดที่ผลทางวิทยาศาสตร์ยังไม่ออกมายืนยัน ตนและครอบครัวก็อยากจะขอความเป็นธรรมด้วยว่า อย่าเพิ่งตัดสินว่าสามีตนเป็นคนผิด หรือเป็นพ่อที่ข่มขืนลูกตนเอง

0 comments:

Post a Comment

Note: Only a member of this blog may post a comment.